โดยปกติแล้ว Apple จะไม่ให้ดาวน์เกรด iOS เวอร์ชันใหม่กว่าลงมาเก่ากว่า เช่น iOS 9.3.3 ลงไปยัง 8.x แต่ว่าการดาวน์เกรดจะเกิดขึ้นได้ใน 2 กรณีคือ

• ดาวน์เกรดจาก iOS Beta ลงมาตัวปัจจุบัน เช่น iOS 10 Beta ลงมายัง iOS 9.3.4
• ดาวน์เกรดจาก iOS ที่เพิ่งปล่อยล่าสุด (iOS 9.3.4) ไปยังเวอร์ชันก่อนหน้า เช่น 9.3.3 ซึ่งยังไม่ปิด Sign

ดังนั้นเคสนี้เราจะดาวน์เกรดจาก iOS 9.3.4 ไปยัง iOS 9.3.3 ซึ่ง ณ ตอนนี้ Apple ยังไม่ปิดประตูที่จะให้ดาวน์เกรด ฉะนั้นใครอยากทำก็ให้รีบนะครับ

ขั้นตอนการดาวน์เกรด iOS 9.3.4 หรือ iOS 10 Beta ไปยัง iOS 9.3.3

มีวิธีการแนะนำอยู่ 2 แบบคือ ผ่าน iTunes และ 3uTools

วิธีที่ 1 ดาวน์เกรดด้วย iTunes

วิธีนี้ข้อมูลหายดังนั้นต้องสำรองข้อมูลที่จำเป็นเอาไว้เสียก่อนนะครับ (ย้ำว่าสำรองข้อมูล iOS 9.3.4 นำไป restore กลับ iOS 9.3.3 ไม่ได้นะครับ)

สำรองข้อมูล

• รายชื่อ เบอร์โทรและโน้ตต่างๆ ให้เก็บไว้กับ iCloud (Settings> iCloud ล็อกอินด้วย Apple ID แล้วเปิดรายชื่อ โน้ตและอื่นๆ ที่ต้องการอัปโหลดไปเก็บที่ iCloud)
• รูปให้ก๊อปลงคอม
• LINE ให้สำรองข้อมูลแชทไปยัง iCloud
• จำไว้ว่าไม่แนะนำให้สำรองข้อมูลด้วย iTunes แล้วนำมารีสโตร์ เพราะไฟล์การตั้งค่าต่างๆ ในตอนที่จลเบรคจะกลับมาด้วย ทำให้เครื่องรวนได้

การล้างเครื่องด้วย Recovery Mode (เพื่อดาวน์เกรด)

ก่อนอื่นต้องดาวน์โหลดไฟล์ iOS 9.3.3 IPSW มาเก็บไว้ที่คอมฯ เสียก่อน

จากนั้นที่ iPhone ให้ ปิด Find my iPhone หรือค้นหา iPhone ของฉัน เสียก่อนที่

•  Settings> iCloud> Find my iPhone
• การตั้งค่า> iCloud> ค้นหา iPhone ของฉัน

ต่อไปให้ ปิดเครื่อง iPhone ให้สนิทแล้วกดปุ่ม Home ค้างก่อนที่จะเสียบสาย USB เข้ากับคอมฯ

ที่คีบอร์ด

• macOS ให้กด option ค้าง> Restore iPhone
• Windows ให้กด Shift ค้าง> Restore iPhone

แล้วเลือก iOS 9.3.3 IPSW ที่ดาวน์โหลดเอาไว้แล้ว แล้วกด Open

เพียงเท่านี้ iTunes ก็จะทำการดาวน์เกรด iOS 9.3.4, iOS 10 Beta ให้กลับมาเป็น iOS 9.3.3 แล้ว (ช่วงนี้ทำได้แต่หลังจาก Apple ปิด Sing iOS 9.3.3 จะทำไม่ได้ โปรดจำไว้นะครับ)

วิธีที่ 2 ดาวน์เกรดด้วย 3uTools

สิ่งที่ต้องมีในคอมพิวเตอร์

• ติดตั้ง iTunes แล้ว (เพื่อลงไดร์เวอร์ของ idevice ให้คอมมองเห็นอุปกรณ์เหล่านั้นก่อน)
• ติดตั้งโปรแกรม 3uTools จาก 3u.com (ตอนนี้รองรับเฉพาะ windows เท่านั้น) จะใช้โปรแกรมนี้ในการดาวน์เกรด เพราะง่ายและรวดเร็ว

ขั้นตอนการดาวน์เกรด

ก่อนเริ่มทำควร

• สำรองข้อมูลเอาไว้ก่อน(กันข้อมูลสูญหาย แม้ว่าวิธีการนี้จะไม่ลบข้อมูลก็ตาม) รูปก๊อบออกด้วย iTools, iFunbox ส่วนรายชื่อต่างๆ ก็อัปโหลดขึ้น iCloud นะครับ
• ปิด Find my iPhone บน iPhone, iPad (หรือไม่ปิดก็ได้แต่จะต้องจำ Apple ID และรหัสผ่านที่ล็อคอินอยู่ในเครื่องนั้นๆ ได้)

ลงมือ

1. เสียบ iPhone, iPad เข้าคอมแล้วเปิด 3uTools ขึ้นมา
2. เลือกเมนู Flash Jailbreak> Easy Flash
3. เลือกดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ iOS 9.3.3 และรอให้ดาวน์โหลดจนเสร็จ
4. ติ๊กที่ iOS 9.3.3
5. ติ๊กที่ Don’t erase user’s data
6. กด Flash
7. รอประมาณ 5-10 นาทีให้ 3uTools ทำการติดตั้ง iOS 9.3.3 ให้

ชมตัวอย่างการดาวน์เกรดจาก iOS 9.2.1 และ iOS 9.3 Beta กลับไปยัง iOS 9.2 ใช้หลักการเดียวกันครับ

เพียงเท่านี้ก็สามารถกลับมาใช้ iOS 9.3.3 ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ

บทความโดย iPhoneMod.net

The post ดาวน์เกรด iOS 9.3.4 หรือ iOS 10 Beta ไปยัง iOS 9.3.3 appeared first on iPhoneMod.

สวัสดีโปเกม่อนเทรนเนอร์หน้าใหม่ทุกท่าน และนี่ถึงแม้จะเป็นสัปดาห์แรกของ Pokémon GO แต่หลายคนก็มีเลเวลทะลุเพดานกันไปแล้ว สำหรับคนที่เล่นเองก็สนุกสนานภาคภูมิใจกันไป แต่สำหรับคนที่โกงอันนี้รู้อยู่แก่ใจตัวเอง (อยากบอกเลยว่าพลาดอย่างแรง!) แต่เอาล่ะ … สำหรับคนที่อยากปั้มเวลแบบไม่ผิดกติกา ในเกมมีเคล็ดลับอยู่เล็กน้อยด้วยไอเท็ม “Lucky Egg” (หวังว่าคงไม่ได้เอาไปใช้เล่นกันหมดนะ)

Lucky Egg หาได้จากไหน ?

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจก่อนว่า Lucky Egg เป็นไอเท็มชนิดหนึ่งซึ่งให้ผลลัพธ์ “ค่าประสบการณ์สองเท่า เป็นระยะเวลา 30 นาที” โดยจะได้ฟรีคนละอันครั้งแรก เมื่อเลเวลถึง 9 และ 10 ตามลำดับ นอกจากนี้ก็สามารถหาซื้อได้ในเกมราคา 80, 500 และ 1,250 เหรียญทอง (เอาน่า … อุดหนุนค่าเซริฟเวอร์เขาหน่อย)

ค่าประสบการณ์สองเท่า เทคนิคการใช้งาน

โดยปกติ ค่าประสบการณ์ (XP) เราจะได้อยู่เรื่อย ๆ จากการทำอะไรบางอย่างในเกม เช่น จับโปเกม่อน, เข้าไปหมุนป้ายรับของ, วิวัฒนาการโปเกม่อน, ได้โปเกม่อนชนิดใหม่, ฯลฯ

1. 10 XP เมื่อทำการโยน Poké Ball ด้วยท่าพื้นฐาน (Curve Ball, Nice Throw)
2. 50 XP เมื่อทำการโยน Poké Ball ด้วยท่าสวยงาม (Great Throw)
3. 100 XP เมื่อทำการโยน Poké Ball ด้วยท่าโคตรเทพ (Excellent Throw)
4. 50 XP เมื่อหมุนแผ่นป้าย PokéStop ไม่ว่าจะได้ของหรือไม่ก็ตาม
5. 100 XP เมื่อทำการจับโปเกม่อนได้
6. 50 XP เมื่อทำการฝึกกับสีเดียวกันที่ Gym
7. 100 XP เมื่อทำการต่อสู้กับสีอื่นที่ Gym
8. 150 XP เมื่อทำการฝึกหรือต่อสู้และชนะที่ Gym
9. 200 XP เมื่อทำการฟักไข่สำเร็จ
10. 500 XP เมื่อได้โปเกม่อนชนิดใหม่ที่ไม่เคยได้มาก่อน (ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม)
11. 500 XP เมื่อทำการวิวัฒนาการ Evolve โปเกม่อน

จากคะแนนด้านบน จะเห็นได้ว่าค่าประสบการณ์ที่ได้เยอะ ๆ ล้วนมาจากการวิวัฒนาการโปเกม่อน ซึ่งจะได้กับโปเกม่อน “ทุกตัว” ซ้ำกันได้และไม่จำกัดชนิด ถ้าทำพร้อมกัน 10 ตัว ก็เท่ากับได้ 5000 XP ซึ่งตรงนี้จะทำให้เราเลเวลขึ้นค่อนข้างมาก บวกกับความสามารถของ Lucky Egg ที่ให้ค่าประสบการณ์สองเท่า

โปเกม่อนหาง่าย

ในเกมมีโปเกม่อนหาง่าย และใช้ลูกอม (Candy) ในการวิวัฒนาการไม่เยอะ ยกตัวอย่างเช่น Pidgey, Weedle, Caterpie และ Ratana แนะนำให้สะสมไว้เยอะ ๆ รวมทั้งทำการปล่อยทิ้ง (Transfer) ไปบ้างเพื่อแลกลูกอม เมื่อเราสะสมได้จำนวนหนึ่งสักประมาณ 20-30 ตัว (แต่ต้องมีลูกอมเพียงพอสำหรับวิวัฒนาการทั้งหมดด้วย)

จากนั้นเพื่อความคุ้มค่าเราอาจฟักไข่พร้อมกะเวลาวิ่งไปด้วย (อย่าให้เกินครึ่งชั่วโมง) เผื่อที่ว่าไข่ที่ฟักออกมาเป็นโปเกม่อนชนิดใหม่ เราก็จะได้ค่าประสบการณ์มากขึ้นไปอีก

หากคุณเตรียมโปเกม่อนไว้เพื่อวิวัฒนาการเยอะเท่าไหร่ ยิ่งได้ค่าประสบการณ์เยอะมากขึ้นเท่านั้น (อย่างน้อย 10 ตัวได้แน่นอน 10,000 XP) เพียงพอสำหรับการอัปเลเวล ในระยะเวลาอันสั้น

ส่วนเวลา 30 นาที หากเอาไปวิวัฒนาการแล้วเหลือ อาจเลือกจับโปเกม่อนตามรายทางการได้ครับ และเพื่อความสุ้มค่าอย่าลืมใช้ Incense และ Lure module ไปด้วยในตัว (ถ้ามี) จะทำให้การใช้งาน Lucky Egg ไม่เสียของเปล่าครับ

The post Pokémon GO ปั้มเลเวลแบบไม่ผิดกติกาด้วย “Lucky Egg” appeared first on iPhoneMod.

วันนี้แอป Pokémon GO อัปเดตเวอร์ชันล่าสุด V.1.3.0 มีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงหลายอย่างๆ แต่สิ่งที่จะแนะนำต่อไปนี้คือวิธีการตั้งค่าอย่างไรให้ Pokémon GO กินแบต iPhone น้อยๆ จะได้เล่นได้นานมากยิ่งขึ้น

ตั้งค่า Pokémon GO ให้กินแบต iPhone น้อยลง

ขั้นที่ 1 อัปเดต Pokémon GO ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อนเลยที่ App Store

ขั้นที่ 2 แตะที่โปเกบอลสีขาวแดง> เลือก Settings ที่บนขวา

ขั้นที่ 3 เลือกที่ Battery Saver

เพียงเท่านี้ Pokémon GO ก็จะรับประทานแบตเตอรี iPhone น้อยลงแล้วครับ

วิธีการที่ 2 สำหรับการเปลี่ยนชื่อตัวละคร

เลือกที่โปเกบอล > Settings ที่บนขวา

จากนั้นเลือก Change Nickname> Yes แล้วตามด้วยการเปลี่ยนชื่อใหม่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ครั้งเดียวเท่านั้น ฉะนั้นต้องมั่นใจในชื่อที่จะเปลี่ยนแล้ว

เท่านี้การเปลี่ยนชื่อเล่นของตัวละครใน Pokémon GO ก็จะเรียบร้อยแล้วครับ

The post วิธีตั้งค่า Pokémon GO ให้กินแบต iPhone น้อยลงและเปลี่ยนชื่อตัวละครได้ appeared first on iPhoneMod.

อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของสุดยอดเกม Pokémon GO กันไปอย่างแน่นอน เอาหละเพื่อให้การเล่นเกมนั้นเป็นไปอย่างสร้างสรรค์สนุกสนานและปลอดภัยวันนี้มีคำแนะนำสำหรับผู้เล่นหรือ Pokémon Trianer ทั้งหลายให้ได้ทราบกันครับ

8 คำแนะนำในการเล่น Pokémon GO ให้สนุกและปลอดภัย ควรทำอย่างไรบ้าง

ก่อนหน้านี้เคยเขียนเรื่อง “10 มารยาทที่ควรมี” สำหรับผู้เล่น Pokémon GO ให้ได้อ่านกันไปแล้ววันนี้ขอนำข้อมูลมาบอกเสริมเพิ่มให้ก็แล้วกันนะครับ ผู้เล่นอ่านแล้วก็ควรปฏิบัติตามหรือผู้ปกครองที่เห็นเด็กๆ เล่นก็จะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปบอกน้องๆ ได้ครับ

1. ไม่ควรเล่น Pokémon GO ถ้าหาก…

คุณกำลัง ขับขี่ยานพาหนะใดๆ ขณะเดิน หรือการทำกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่ใช้สมาธิสูง เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้เล่นหรือคนอื่นๆ รอบข้างได้ แถมการเล่นขณะขับยานพาหนะนอกจากเสี่ยงต่ออุบัติเหตุแล้วแถมผิดกฎหมายด้วย

2. อย่าเข้าไปหาโปเกมอนในที่อันตราย

ความปลอดภัยต้องมาก่อน เพราะโปเกมอนทุกตัวมีโอกาสโผล่มาใหม่ในที่อื่นและเวลาอื่นๆ ได้เสมอ นอกจากนี้ยังรวมถึงควรประเมินถึงความเหมาะสมในการจับโปเกมอนตามสถานที่สำคัญๆ เช่น สถานที่สำคัญทางศาสนา สถานที่ราชการ โรงพยาบาล หรือสถานที่อื่นๆ ที่ต้องการความสงบเรียบร้อยและให้เกียรติต่อธรรมเนียมปฏิบัติของสถานที่นั้นๆ

3. อย่าลืมพกร่ม ใส่หมวก แว่นตากันแดดและครีมกันแดด ไปด้วยทุกครั้ง

ในยามที่ต้องไปตามหาโปเกมอนช่วงกลางวัน ปกป้องร่างกายและสายตาของเราจากแสงแดดไว้ก่อน เล่นทั้งทีได้ทั้งความสนุกและถนอมสุขภาพไปด้วยยิ่งดีใหญ่

4. หาเพื่อนสนิทหรือคนรู้ใจแล้วเล่น Pokémon GO ไปด้วยกัน

อย่าหลงเชื่อคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน เพียงเพราะการเป็น Pokémon Trainer เหมือนกัน เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้

5. ไม่ควรใช้โปรแกรมช่วยเล่น

โปรแกรมหรือแอพฯ ที่มีการแสดงข้อมูลพิกัดการจับโปเกมอนอย่างละเอียด เพราะแอพฯ ลักษณะดังกล่าวอาจมีการบังคับให้ผู้ใช้ล็อกอินโดยใช้ Account ส่วนตัวต่างๆ ของเรา (เช่น Facebook Account, Google Account เป็นต้น) ซึ่งมีโอกาสที่จะโดนมิจฉาชีพฉกฉวยข้อมูลทางดิจิตอลไปสร้างความเดือดร้อนได้

6. พก Power Bank ติดไว้ในกระเป๋าเสมอ

ไม่ใช่เพื่อความสนุกอย่างต่อเนื่องในการเล่น Pokémon GO เพียงอย่างเดียว แต่ควรเก็บไว้ใช้ยามต้องติดต่อคนอื่น หากอยู่ในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยด้วย

7. ควรตรวจสอบแพ็กเกจ Mobile Internet ก่อนใช้งานและเลือกใช้ให้เหมาะสม

ใครใช้แพ็กเกจแบบ Unlimited ก็สามารถเล่นแบบไร้กังวลในข้อนี้ได้เลย แต่ถ้าใครใช้แพ็คเกจแบบคิดตามปริมาณการใช้งาน ควรหมั่นตรวจสอบการใช้งานอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายที่เกินควบคุม

8. ใช้เครือข่าย Mobile Internet ที่เร็วและครอบคลุมพื้นที่ในวงกว้าง

เพื่อการเล่น Pokémon GO ได้ทุกที่ทุกเวลาแบบไม่มีสะดุด นอกจากนี้ยังควรเชื่อมต่อสัญญาณ Wifi ควบคู่ไปด้วยหากอยู่ในพื้นที่ที่มี Wifi เข้าถึง เพื่อให้ระบบ GPS ของสมาร์ทโฟนทำงานได้แม่นยำขึ้น

เป็นคำแนะนำที่ดีเพื่อที่จะได้เล่นเกมกันอย่างสร้างสรรค์และไม่เกิดอันตรายแต่ตนเองและผู้อื่นนะครับ

ทั้งนี้ใครสนใจเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับ Pokémon GO สามารถติดตามอ่านเรื่องราวของ Pokémon GO ได้ที่นี่ครับ

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก TrueMove H

The post 8 คำแนะนำในการเล่น Pokémon GO ให้สนุกและปลอดภัย ควรทำอย่างไรบ้าง appeared first on iPhoneMod.

ขอรวบรวมข้อมูลตัวละครโปเกมอนใน Pokémon GO มาให้ชมกันหลายๆ คนไม่รู้ว่าตัวโปเกมอนที่จับได้นั้นมีชื่อว่าอะไรและทำอะไรได้บ้าง หรือตัวที่จับได้นั้นสามารถวิวัฒนาการ (Evolve) ไปเป็นตัวไหนบ้าง วันนี้ขอนำตารางข้อมูลรายชื่อหรือว่า Pokédex ของเหล่าโปเกมอนมาให้ชมกันครับ

การอ่านตารางโปเกมอน

พลังชีวิต (HP) = ค่า HP หรือจำนวนเลือดของโปเกมอนตัวนั้นๆ หากมีค่า HP มากก็จะทนต่อการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้มาก

โจมตี (Attack) = พลังในการโจมตีแต่ละครั้ง

ป้องกัน (Defense) = ค่าความสามารถในการป้องกันการโจมตีของคู่ต่อสู้

Max CP = ค่า CP สูงสุดของโปเกมอนตัวนั้นๆ ซึ่งถ้ามีค่า CP มาก ความสามารถในการต่อสู้ก็จะสูง

อัตราการจับสำเร็จ (Catch Rate) = ความสำเร็จในการจับโปเกมอนตัวนั้น

อัตราการหนี (Flee Rate) = เปอร์เซ็นที่เราจับไม่สำเร็จแล้วโปเกมอนตัวนั้นจะหนี

ประเภท (Type) = ธาตุของโปเกมอนตัวนั้นๆ ซึ่งแต่ละธาตุก็มีความสามารถต่างกัน ซึ่งหากเราเลือกธาตุให้ต่อสู้ถูก โอกาสในการชนะก็มีมากขึ้น

ไอเทมที่ใช้วิวัฒนาการ (Evolution Method) = ประเภทและจำนวนของ Candy ที่ต้องใช้ในการทำวิวัฒนาการเปลี่ยนร่างเป็นอีกระดับของโปเกมอนตัวนั้นๆ หรือก็คือไอเทมที่จำเป็นในการทำ EVOLVE นั่นเอง

ระยะทางที่ใช้ฟักไข่ (Egg Distance) = โปเกมอนบางตัวเราสามารถได้จากการฟักไข่ที่เก็บได้ตามจุดต่างๆ ซึ่งก็จะมีระยะทางที่เราต้องใช้การเดินเพื่อฟักไข่แตกต่างกัน โดยจะมีระยะทาง 2 กม., 5 กม. และ 10 กม. หากได้ไข่ที่ต้องใช้ระยะทางในการฟักไข่มากก็จะมีโอกาสได้โปเกมอนหายาก

สกิลโจมตี (Attack Skill) = ท่าที่ใช้ในการโจมตีของโปเกมอนตัวนั้นๆ

เมื่อทราบค่าต่างๆ เหล่านี้ของเหล่าโปเกมอนแล้วเราก็จะสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ตัวไหนในการต่อสู้นะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก H Book

The post รายชื่อ โปเกมอน ใน Pokémon GO พร้อมรายละเอียดและค่าพลังต่างๆ appeared first on iPhoneMod.

ก่อนหน้านี้เคยนำเสนอเรื่อง วิธีลบ Cydia ลบเจลเบรค ออกจาก iPhone iOS 9.2 – 9.3.3 ให้เป็นเครื่องปกติ เป้าหมายก็เพื่อลบเจลเบรคออกจากเครื่องและทำให้เครื่อง iPhone, iPad กลับมาอยู่ในสภาพเดิมเหมือนเพิ่งออกมาจากโรงงาน (พูดง่ายๆ คือการล้างเครื่องนั่นแหละ) วิธีการนั้นจะใช้คอมพิวเตอร์ทำ แต่วิธีการที่จะบอกต่อไปนี้ทำผ่าน iPhone ได้เลย

หากยังจำกันได้ผมเคยสอนเรื่อง ลบเจลเบรคและยัง iOS เวอร์ชันเดิมด้วย Cydia Impactor กันไปนานแล้ว ข้อดีของการใช้ Cydia Impactor ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็น Cydia Eraser ก็คือ

ลบเจลเบรค ทำให้เครื่องกลับมาเป็น iOS แบบปกติ โดยที่ยังรักษา iOS เดิม ณ ขณะที่ติดตั้งได้

หมายความว่า ยกตัวอย่างหากคุณเจลเบรค iOS 9.3.3 แล้วเกิดไม่ชอบใจอยากล้างเครื่องหรือลบ  Cydia ออก แต่ว่ายังอยากได้  iOS 9.3.3  ตัวเดิมไว้(ซึ่งอนาคตหากล้างเครื่องผ่าน iTunes คุณจะได้ iOS 9.3.4  หรือ  iOS 10 นั่นเอง) ก็สามารถใช้แอปทวีคนี้แหละลบเจลเบรคออกจากเครื่องได้

วิธีติดตั้ง Cydia Eraser

แน่นอนว่าเครื่องต้องเจลเบรคแล้วจากนั้นค้นหาที่  Cydia  ด้วยคำว่า  Cydia Eraser

เลือก  Modify มุมบนขวาแล้วเลือก Install> Confirm

หลังติดตั้งเสร็จเลือกที่  Return to Cydia แล้วออกไปที่หน้า  Home

การใช้งาน Cydia Eraser ลบเจลเบรคออกจากเครื่อง

เปิดแอป Eraser ที่หน้า  Home  ขึ้นมา

การล้างเครื่องให้เลือกที่  erase all data, unjailbreak device

ข้อมูลทุกอย่างในเครื่องจะหายทั้งหมด ให้ทำการสำรองข้อมูลเอาไว้ก่อนนะครับ

• รายชื่อ เบอร์โทรและโน้ตต่างๆ ให้เก็บไว้กับ iCloud (Settings> iCloud ล็อกอินด้วย Apple ID แล้วเปิดรายชื่อ โน้ตและอื่นๆ ที่ต้องการอัปโหลดไปเก็บที่ iCloud)
• รูปให้ก๊อปลงคอม
• LINE ให้สำรองข้อมูลแชทไปยัง iCloud
• จำไว้ว่าไม่แนะนำให้สำรองข้อมูลด้วย iTunes แล้วนำมารีสโตร์ เพราะไฟล์การตั้งค่าต่างๆ ในตอนที่จลเบรคจะกลับมาด้วย ทำให้เครื่องรวนได้

เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถลบเจลเบรคหรือ Cydia  ออกจากเครื่องและยังคงได้ iOS เดิมไว้นั่นเอง

The post ลบเจลเบรคผ่าน iPhone ด้วย Cydia Eraser รองรับ iOS 9.3.3 แล้ว appeared first on iPhoneMod.

ว่าด้วยเรื่องประกันของ iPhone, iPad, iPod ในประเทศไทยจะมาพร้อมประกันด้านอุปกรณ์ (Hardware) 1 ปี ซึ่ง iPad และ iPod touch นั้นสามารถซื้อ Apple Care ต่อประกันให้ครอบคลุมเป็น 2 ปีได้ (รายละเอียด Apple Care iPad, Apple Care iPod touch) แต่ไม่มีสำหรับ iPhone นะ ดังนั้นหลายคนอาจจะสงสัยว่าเมื่อเครื่องหมดประกันแล้วต้องทำอย่างไร?

ก่อนอื่นถ้า iPhone, iPad ยังไม่หมดประกัน(ซื้อยังไม่ถึง 1 ปี)

การเคลมมี 2 แบบครับ

1. เคลมฟรี

ในกรณีที่อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เสียด้วยตัวมันเอง เช่น

• Wifi เสีย
• แบตเสื่อมเร็วกว่าปกติ
• จอสัมผัสไม่ได้
• ชาร์จแบตไม่เข้า เช็คแล้วเป็นที่เมนบอร์ด
• กล้องถ่ายไม่ได้ กล้องมีปัญหา
• เครื่องไม่สั่น เครื่องไม่เสียง

พูดก็พูดคืออะไรก็ตามที่ทำให้เครื่องใช้งานไม่ปกติหากทดสอบแล้วไม่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ ก็ถือว่าเสียที่ฮาร์ดแวร์ มีประกันเคลมได้ฟรี แบบเปลี่ยนเครื่อง(หรืออะไรบางส่วน) ครับ

 2. เคลมแบบจ่ายเงิน

แม้เครื่องจะมีประกันแต่ความเสียหายกับเครื่องนั้นอยู่นอกเหนือการรับประกัน เราจะต้องชำระเงิน เช่น

• เครื่องตกจอแตก กระจกแตก ต้องจ่ายค่าเปลี่ยนจอประมาณ 5,500 – 6,000 บาท (ช่วงหลังมา AASP รับเปลี่ยนบางอะไหล่แล้ว)
• เครื่องตกน้ำ โดนความชื้น ทำให้เสีย เปิดไม่ติดใช้การไม่ได้ ถ้าอาการหนักก็คงต้องเคลมแบบเปลี่ยนทั้งเครื่อง ราคานั้นอยู่ที่ลิสต์ด้านล่าง

iPhone iPad หมดประกัน เคลมได้ไหม?

เคลมได้ครับ แต่มีข้อแม้ว่า

• เครื่องต้องไม่ผ่านการซ่อมหรือแกะเครื่องมาแล้ว
• ไม่เคยเปลี่ยนอะไหล่จากร้านนอกที่ไม่ได้เป็นตัวแทนของ Apple
• ต้องจ่ายค่าเคลมตามรุ่นที่ระบบ

ยกกรณีตัวอย่างที่จะเคลมเครื่องใหม่ เช่น

• เปิดไม่ติด อาจจะตกน้ำมาหรือใช้อยู่ดีๆ ก็เปิดไม่ได้เช็คแล้วเสียที่เมนบอร์ด
• โดยรถทับแตกทั้งจอ เคสก็เบี้ยวเปิดก็ไม่ติด แบบนั้นเคลมทั้งเครื่องเหมาะเลยครับ

ค่าเคลมกับ AASP เท่าไหร่?

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า AASP คืออะไร

AASP คือตัวแทนของการให้บริการด้านการซ่อม เคลม จากทาง Apple ในประเทศไทย ชื่อเรียกเต็มคือ Apple Authorized Service Provider  ชื่อที่คุ้นหูกันก็คือ iCare, Smart Bar, iServer, iMedic นั่นเองครับ

ราคาค่าเคลมแต่ละรุ่นจะต่างกันออกไปนะครับ ราคาผมแนบไฟล์ให้ชมด้านล่างครับ

ราคาก็ตามนี้ครับอัปเดตล่าสุดที่เพิ่งไปเช็คที่ iCare มาเมื่อวันที่ 12/8/2559

เครื่องใครเสียและกำลังจะเคลมก็เช็คดูได้ครับหรืออาจจะเดินเข้าไปสอบถาม AASP ที่สาขาใกล้บ้านได้เลยครับ

หากต้องการสอบถามหรือมีข้อสงสัยโพสคอมเมนต์ทิ้งไว้ได้ครับ

The post iPhone iPad หมดประกัน เคลมที่ไหน? ราคาค่าเคลมทั้งเครื่องที่ AASP อัปเดต ส.ค. 59 appeared first on iPhoneMod.